ในอุตสาหกรรมการผลิตเหล็ก-เหล็ก แอมโมเนียมซัลเฟตที่มีคุณภาพเฉพาะสำหรับงานเหล็ก (Steel Grade Ammonium Sulfate) ไม่ใช่แค่ปุ๋ยไนโตรเจนเท่านั้น แต่ยังเป็นสารช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการหลอมและขึ้นรูปโลหะ โดยเฉพาะในการควบคุมอุณหภูมิเตา ลดกำมะถัน และเพิ่มความบริสุทธิ์ของเหล็กกล้า
เมื่อพิจารณาในกระบวนการหลอมเหล็กแบบดั้งเดิม เช่น ที่ใช้ในเตาเผา (Blast Furnace) และเตาแปลง (Basic Oxygen Furnace) แอมโมเนียมซัลเฟตจะถูกผสมเข้าไปในเชื้อเพลิงหรือผงแร่เพื่อควบคุมอุณหภูมิภายในเตาให้คงที่มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงโหลดวัสดุหรือปริมาณคาร์บอนสูง — ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดความไม่เสถียรในกระบวนการผลิต
ขั้นตอน | หน้าที่ของแอมโมเนียมซัลเฟต | ผลลัพธ์ที่ได้ |
---|---|---|
เตาหลอม (Blast Furnace) | ควบคุมอุณหภูมิและความสมดุลของก๊าซในเตา | ลดเวลาหยุดทำงานจากปัญหาอุณหภูมิไม่เสถียร 15–20% |
เตาแปลง (BOF) | ช่วยลดกำมะถันในเหล็กเหลวโดยการสร้างปฏิกิริยาเคมี | ลดระดับกำมะถันจาก 0.03% → 0.01% ในเหล็กหลอม |
การหล่อต่อเนื่อง (Continuous Casting) | ปรับปรุงโครงสร้างผลึกของเหล็ก ลดรอยร้าวบนผิว | เพิ่มอัตราการผลิตที่ปราศจากข้อบกพร่อง 12% |
“ตามรายงานจากสถาบันวิจัยเหล็กแห่งเอเชีย (Asian Iron & Steel Research Institute) ปี 2023 ระบุว่า การใช้แอมโมเนียมซัลเฟตเกรดเฉพาะในกระบวนการหลอมเหล็กสามารถลดต้นทุนการบำรุงรักษาเครื่องจักรได้เฉลี่ย 18% ภายใน 6 เดือนแรกของการใช้งาน” — Dr. Nattapong Chaiyabut, Lead Researcher
เมื่อเทียบกับสารช่วยเสริมอื่น ๆ เช่น โซเดียมฟอสเฟตหรือแคลเซียมคาร์บอเนต แอมโมเนียมซัลเฟตมีข้อได้เปรียบในหลายด้าน:
ในอนาคต แนวโน้มของอุตสาหกรรมเหล็กสีเขียว (Green Steel) และการผลิตอัจฉริยะ (Smart Manufacturing) จะนำไปสู่การขยายขอบเขตการใช้งานของแอมโมเนียมซัลเฟต เช่น การใช้ในระบบควบคุมอัตโนมัติที่ตรวจจับระดับกำมะถันในเหล็กเหลวแบบเรียลไทม์
掌握这一关键技术,让您的生产线更稳更快
ดาวน์โหลดเอกสารแนะนำการใช้งานแอมโมเนียมซัลเฟตในอุตสาหกรรมเหล็ก